รีไฟแนนซ์มือถือ คือกระบวนการเปลี่ยนสัญญาการเงินของโทรศัพท์มือถือที่คุณมีอยู่ เพื่อให้มีเงื่อนไขที่เหมาะสมขึ้น เช่น ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือปรับยอดผ่อนในแต่ละงวดให้ลดลง ทำให้สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ง่ายยิ่งขึ้นรีไฟแนนซ์มือถือกับจำนำ iPhone ต่างกันยังไง?

ทำไมรีไฟแนนซ์มือถือถึงเป็นที่นิยม

รีไฟแนนซ์มือถือได้รับความนิยมเพราะเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะสั้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้จัดสรรเงินได้ดีขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

รีไฟแนนซ์มือถือเหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีภาระผ่อนชำระหนักเกินไป

• ผู้ที่ต้องการลดค่างวดรายเดือน

• ผู้ที่ต้องการยืดระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น

• ผู้ที่ต้องการนำวงเงินเดิมไปหมุนเวียนใช้จ่าย

หลักการทำงานของรีไฟแนนซ์มือถือ

กระบวนการรีไฟแนนซ์มือถือมักจะประกอบด้วย

1. การตรวจสอบสถานะเครื่อง

2. การประเมินมูลค่าเครื่อง

3. การยื่นขอรีไฟแนนซ์กับผู้ให้บริการ

4. การทำสัญญาใหม่ตามเงื่อนไขที่ตกลง

 ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์มือถืออย่างละเอียด

1. ตรวจสอบสถานะหนี้สินเดิม

2. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายผู้ให้บริการ

3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

4. ยื่นขอรีไฟแนนซ์

5. ลงนามสัญญาใหม่

เอกสารที่ต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์มือถือ

• บัตรประชาชนตัวจริง

• โทรศัพท์มือถือพร้อมกล่องหรืออุปกรณ์เสริม (ถ้ามี)

• เอกสารการผ่อนชำระเดิม (ถ้ามี)

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์มือถือ

• ลดค่างวดรายเดือน

• ปรับแผนการเงินได้ง่ายขึ้น

• ได้เงินก้อนหมุนเวียนเพิ่มเติม

ข้อควรระวังก่อนรีไฟแนนซ์มือถือ

• ตรวจสอบเงื่อนไขสัญญาใหม่อย่างละเอียด

• เปรียบเทียบหลายข้อเสนอเพื่อให้ได้ข้อที่ดีที่สุด

• ระวังค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกิดขึ้น

เปรียบเทียบรีไฟแนนซ์มือถือกับการจำนำมือถือ

รายการเปรียบเทียบ	รีไฟแนนซ์มือถือ	จำนำมือถือ
สถานะกรรมสิทธิ์	ยังถือครองได้	ถูกเก็บรักษาไว้
การใช้งาน	ใช้งานได้ตามปกติ	ไม่สามารถใช้งาน
ระยะเวลา	ยาวกว่า	สั้นกว่า

 รูปแบบการรีไฟแนนซ์มือถือที่มีในตลาด

• รีไฟแนนซ์เครื่องเก่าเพื่อลดค่างวด

• รีไฟแนนซ์เครื่องพร้อมอัพเกรดรุ่นใหม่

• รีไฟแนนซ์แบบผ่อนระยะยาว

วิธีเลือกผู้ให้บริการรีไฟแนนซ์มือถือ

1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัท

2. เปรียบเทียบข้อเสนอและเงื่อนไข

3. พิจารณาบริการหลังการรีไฟแนนซ์

 ปัญหาที่พบบ่อยในการรีไฟแนนซ์มือถือ

• ข้อมูลไม่ตรงกับที่แจ้ง

• เครื่องมีตำหนิหรือเสียหาย

• เอกสารไม่ครบถ้วน

เคล็ดลับการรีไฟแนนซ์มือถือให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

• เตรียมข้อมูลเครื่องให้ครบ

• ต่อรองเงื่อนไขกับหลายเจ้า

• ตรวจสอบโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษเสริม

 ตัวอย่างเคสรีไฟแนนซ์มือถือที่ประสบความสำเร็จ

ลูกค้า A ใช้ iPhone 14Pro Max ผ่อนมาแล้ว 8 เดือน ต้องการลดค่างวด จากเดิม 2,500 บาทต่อเดือน เหลือ 1,500 บาท ด้วยการรีไฟแนนซ์โดยยืดเวลาผ่อนเพิ่มอีก 12 เดือน ทำให้สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นทันที

สิ่งที่ควรตรวจสอบในสัญญารีไฟแนนซ์มือถือ

• จำนวนเงินที่ต้องชำระทั้งหมด

• ระยะเวลาการผ่อนชำระ

• เงื่อนไขการผิดสัญญา

  ข้อแตกต่างระหว่างรีไฟแนนซ์มือถือใหม่และมือถือมือสอง