รีไฟแนนซ์มือถือกับจำนำ iPhone ต่างกันยังไง?

รีไฟแนนซ์ กับ จำนำมือถือ

รีไฟแนนซ์มือถือกับจำนำ iPhone ต่างกันยังไง?

ในยุคที่มือถือกลายเป็นทรัพย์สินมีมูลค่าสูง การใช้มือถือเป็นเครื่องมือในการหมุนเงินกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นการ “รีไฟแนนซ์มือถือ” หรือ “จำนำ iPhone” ทั้งสองแนวทางมีความแตกต่างกันชัดเจน และเหมาะกับผู้ใช้ที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกมุมมอง เพื่อให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ของคุณ

รีไฟแนนซ์มือถือคืออะไร?

รีไฟแนนซ์มือถือ คือกระบวนการยื่นขอสินเชื่อโดยใช้มือถือที่มีอยู่แล้วเป็นหลักประกัน เพื่อรับเงินก้อนหรือเงินหมุนเวียน พร้อมผ่อนชำระเป็นงวดตามสัญญา

 จุดเด่นของการรีไฟแนนซ์มือถือ

  • ได้วงเงินสูงกว่าการจำนำ

  • มีระยะเวลาผ่อนนาน

  • สามารถใช้มือถือได้ตามปกติระหว่างผ่อน

[รีไฟแนนซ์มือถือ-ภาพอธิบายการทำงาน.jpg]


การจำนำ iPhone คืออะไร?

การจำนำ iPhone คือการนำเครื่องไปฝากไว้กับร้านรับจำนำ และได้รับเงินสดทันที โดยเครื่องจะถูกเก็บรักษาไว้จนกว่าผู้จำนำจะมาไถ่ถอน

ลักษณะเด่นของการจำนำ iPhone

  • ได้เงินสดเร็ว

  • ไม่ต้องตรวจสอบเครดิต

  • เครื่องถูกเก็บรักษาไว้เป็นหลักประกัน

[จำนำไอโฟน-การเก็บรักษาเครื่อง.jpg]

ตารางเปรียบเทียบรีไฟแนนซ์มือถือและจำนำ

รายการรีไฟแนนซ์มือถือจำนำ iPhone
ได้วงเงินสูงกว่าต่ำกว่า
ใช้เครื่องได้ได้ไม่ได้
ต้องเช็คเครดิตบางที่เช็คไม่เช็ค
ระยะเวลาได้เงินใช้เวลาดำเนินการทันที
อัตราดอกเบี้ยต่ำ-ปานกลางสูง

จุดประสงค์ในการใช้บริการต่างกันอย่างไร?

เลือกรีไฟแนนซ์มือถือ

  • ต้องการวงเงินสูง

  • ต้องการผ่อนจ่ายระยะยาว

  • ยังต้องการใช้เครื่องต่อเนื่อง

 เลือกจำนำ iPhone

  • ต้องการเงินสดฉุกเฉิน

  • ไม่กังวลเรื่องการใช้เครื่องชั่วคราว


ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์มือถือ

  1. เตรียมเอกสาร เช่น บัตรประชาชน ตัวเครื่อง

  2. ตรวจสอบมูลค่าประเมินมือถือ

  3. ยื่นขอสินเชื่อ

  4. เซ็นสัญญาและรับเงิน


ขั้นตอนการจำนำ iPhone

  1. นำเครื่องพร้อมกล่อง/อุปกรณ์เสริม

  2. ประเมินราคา ณ จุดให้บริการ

  3. ทำสัญญาจำนำ

  4. รับเงินสดทันที


เงื่อนไขที่ควรทราบในการรีไฟแนนซ์มือถือ

  • อายุของเครื่องไม่เกิน 2-3 ปี

  • เครื่องต้องไม่ติดสัญญา

  • ไม่มีรอยเสียหายหนัก


 เงื่อนไขที่ควรทราบในการจำนำ iPhone

  • เครื่องต้องมีสภาพใช้งานได้

  • ยืนยันความเป็นเจ้าของเครื่อง

  • มีระยะเวลาต่อดอกเบี้ยกำหนดไว้


 ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการรีไฟแนนซ์มือถือ

ตัวอย่างค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมดำเนินการ

  • อัตราดอกเบี้ยรายเดือน

  • ค่าปรับกรณีผิดนัดชำระ


 ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการจำนำ iPhone

  • ดอกเบี้ยรายเดือนสูงกว่ารีไฟแนนซ์

  • ค่าปรับกรณีเกินกำหนดต่อดอก


ระยะเวลาผ่อนชำระในการรีไฟแนนซ์มือถือ

  • ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6-24 เดือน

  • ยิ่งผ่อนนาน ยิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้น


ระยะเวลาต่อดอกในการจำนำ iPhone

  • กำหนดระยะเวลาต่อดอกทุก 30 วัน

  • หากไม่ต่อภายในกำหนดเสี่ยงถูกขายทอดตลาด


 ข้อดีของการรีไฟแนนซ์มือถือ

  • ไม่ต้องปล่อยเครื่องไว้ที่ร้าน

  • วงเงินสูง

  • จัดการภาระหนี้ได้สะดวก


ข้อดีของการจำนำ iPhone

  • ได้เงินสดทันใจ

  • ไม่ต้องผ่านกระบวนการสินเชื่อ

  • ไม่ใช้เอกสารยุ่งยาก

 ข้อควรระวังเมื่อรีไฟแนนซ์มือถือ

  • เสียสิทธิ์หากผิดนัดผ่อน

  • มีโอกาสเสียเครื่องหากผิดสัญญา

  • เสียดอกเบี้ยระยะยาวสูง

 ข้อควรระวังเมื่อจำนำ iPhone

  • เสี่ยงสูญเสียเครื่องหากไม่ไถ่ถอน

  • ดอกเบี้ยแพงหากต่อดอกหลายรอบ

  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในเครื่อง

 เลือกบริการอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?

 พิจารณาจาก

  • ความเร่งด่วนในการใช้เงิน

  • ความสามารถในการผ่อนจ่าย

  • ความจำเป็นในการใช้งานเครื่องต่อเนื่อง

[การตัดสินใจเลือกบริการ-รีไฟแนนซ์หรือจำนำ.jpg]


สรุป

รีไฟแนนซ์มือถือ และการจำนำ iPhone มีข้อดีและข้อจำกัดที่ต่างกันอย่างชัดเจน หากคุณต้องการเงินด่วนพร้อมเก็บมือถือไว้ใช้งาน การรีไฟแนนซ์มือถืออาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณต้องการเงินสดทันทีและไม่กังวลเรื่องการใช้เครื่อง การจำนำ iPhone อาจตอบโจทย์มากกว่า อย่าลืมพิจารณาข้อดีข้อเสียและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การเงินของคุณปลอดภัยและคล่องตัวที่สุด